เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา บ้านเลขที่ 3 บ้านขวาว หมู่ที่ 5 ตำบลหนองสนิทอำเภอจอมพระจังหวัดสุรินทร์ ที่มีการจัดพิธีบูชาแถนโดยมีการจัดตกแต่งใช้ไม้มาทำเป็นเสาจำนวน 9 ต้น ใช้ไม้ไผ่ทำเป็นคาน ใช้ก้านมะพร้าวมามุงเป็นหลังคา ประดับด้วยข้าวต้มหมัด ดอกไม้ ปลาและนกที่สานด้วยใบมะพร้าว เสาทั้ง 9 ต้นประดับด้วยใบต้นลำดวน และมีพานที่มีขันครูบารอาจารย์ มีดอกไม้ขัน 5 ธูปเทียน แป้ง ดอกไม้ ที่เป็นสิ่งของที่ไว้สำหรับบูชาขันครู
โดยมีร่างทรงผู้เป็นผู้อันเชิญ เจ้านั้นก็จะมีขันครูแต่ละร่างทรงที่จะเชิญครูบารอาจารย์ หรือบรรพบุรุษปู่ย่าตายายลงมา โดยมีแตะละขัน ดอกไม้ 5 คู่ ธูปเทียน เงินใส่ขัน 24 บาท มีหมอแคน หลังจากนั้นก็ได้เวลาพิธีก็เริ่มขึ้น
นางวิภาวรรณ ทิพย์คำเพย 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 บ้านขวาว ตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระจังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า ตนเองได้ไปอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษต่อมา จนตนเองได้บอกกล่าวกับผีปู่ย่าตายายของบรรพบุรุษ ว่าจะขอมาจัดพิธีการรำผีฟ้าทุก 3 ปี จนตนเองก็ต้องปล่อยให้เลยเวลาที่กำหนดคือ 3 ปีจนมาทำให้ตนเองเจ็บป่วยไม่สบาย ก็ต้องมาเล่นตามที่เคยให้วาจา แค่ครั้งนี้ตนบอกว่าเลยการที่จะเล่นมาหลายวัน จนทำให้น้องชายที่เป็นสายเลือดเดียวกันต้องมาเจ็บป่วยที่ขาขวา เป็นกระดูกทับเส้นจนไม่สามารถจะเดินได้เลย ตนจึงต้องมาจัดพิธีบูชาแถนนี้ขึ้นมา จากที่ไปดูหมอดูมาเป็นหมอประจำหมู่บ้านนี้เอง
นายสมเดช ปานเพชร อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 3 บ้านขวาว หมู่ที่ 5 บ้านขวาว ตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระจังหวัดสุรินทร์ ที่เป็นคนเจ็บป่วยที่ขาขวาไม่สามารถเดินได้ เล่าว่า ตนขึ้นไปกรุงเทพฯและมีอาการทางด้านภรรยาจึงไปดูหมอดูหรือร่างทรงประจำหมู่บ้าน ที่ทักว่าจะต้องให้พี่สาวที่อยู่กรุงเทพฯ ลงมาจัดพิธีเล่นแถนตามที่ได้บอกกล่าวว่า 3 ปีจัดครั้งหนึ่ง แล้วอาการก็จะหายเดินได้ จึงลงมาจัดพิธีนี้ขึ้นมา
ทั้งนี้ในการรำแถนหรือรำผีฟ้าครั้งนี้ นายสมเดช ที่มีอาการเจ็บก็อยากที่จะรำฟ้อนเหมือนบรรดาร่างทรงที่กำลังร่ายรำกัน อาจารย์ที่เป็นเจ้าพิธีจึงบอกกล่าวให้ลองดู ลองแต่งชุดไทยเผื่อครูบารอาจารย์ท่านอาจจะลงมาที่ร่างกายของเรา แต่พอแต่งตัวเสร็จมีผ้าไหม ผ้าแพรสไบ มีการแบ่งดอกไม้รับจากลูกหลานเพื่อเป็นการขอขมาแถนจะได้ลงร่างทรงได้ จากนั้นก็หมอแคนเข้ามาใกล้ๆร่างทรงใหม่ พิธีก็เริ่มได้นาน แถนก็ยังไม่เข้าร่างตนเลย
จากนั้นครูอาจารย์ที่เป็นเจ้าพิธี จึงให้นางอำนวย ที่เป็นภรรยาของตน ที่กำลังเจ็บขาให้เป็นคนทรงรำแถนเอง พอหลังให้ใช้ผ้าสไบพาดที่ไหล่ ก็มีอาการสั่นแล้วก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกับแสดงอาการร่ายรำโดยไม่รู้ตัวเอง จนอาจารย์ที่เป็นผู้ทำพิธีเห็นการแสดงอาการรุ่นแรงมาก จึงเชิญออกโดยการอมน้ำแล้วพ่นไปที่ร่างกายของนางอำนวย ปานเพชร จนได้สติขึ้นมา
จากนั้นอาจารย์พิธีจึงให้นำผ้าไหมถึงมาใส่เครื่องให้เต็มชุด แล้วอันเชิญลงใหม่อีกครั้ง นางอำนวย ก็มีอาการเหมือนมีผีบรรพบุรุษเข้า หรือที่เรียกกันติดปากว่า เป็นผีบรรพบุรุษที่มาคอยรักษาตัวเรานั้นเอง